ปัญหาอาการแท้ง การตั้งครรภ์นอกมดลูก

ปัญหาอาการแท้ง การตั้งครรภ์นอกมดลูก


การตั้งครรภ์นอกมดลูก
   คือการตั้งครรภ์ที่เกิดจากการฝังตัวของไข่ที่ถูกผสมแล้วนอกโพรงมดลูก ที่ท่อนำไข่ นอกจากนั้นอาจพบได้ที่รังไข่ ปากมดลูก และในช่องท้อง

สาเหตุของการตั้งครรภ์นอกมดลูก
   การตั้งครรภ์นอกมดลูกเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของท่อนำไข่ การอักเสบเรื้อรังของท่อนำไข่

อาการของการตั้งครรภ์นอกมดลูก
   ประกอบไปด้วยอาการปวดท้อง ขาดประจำเดือน และเลือดออกทางช่องคลอด ในภาวะตั้งครรภ์นอกมดลูกระยะแรกอาจไม่พบอาการใดๆ เมื่อการตั้งครรภ์ดำเนินต่อไป อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ อาการเจ็บที่ท้อง หรือท้องน้อย ลักษณะของการปวดมักเป็นลักษณะบีบรัดเป็นช่วงๆ ในกรณีที่มีเลือดออกในช่องท้องจำนวนมาก ซึ่งมักพบในระยะ ที่มีการแตกของท่อนำไข่แล้ว



              

            


ปัญหาการแท้ง
   การแท้ง หมายถึง การตั้งท้องสิ้นสุดลงก่อนที่ทารกในท้องจะมีชีวิตรอดออกมาลืมตาดูโลกภายนอก

สาเหตุของการแท้ง
   สาเหตุสำคัญของการแท้งลูกมี 2 ประการ ใหญ่ๆ คือ
      1. ความผิดปกติของตัวทารก
ทารกที่แท้งออกมาโดยเฉพาะช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์มีความผิดปกติทางโครโมโซม (พันธุกรรม) เกิดจากไข่ผิดปกติ หรือตัวอสุจิที่มาผสมกับไข่มีความผิดปกติ
      2. ความผิดปกติของคุณแม่
   เชื่อว่าคุณแม่ที่มีความผิดปกติเหล่านี้จะเกิดการแท้งตามมาได้ เช่น
 - เป็นโรคติดเชื้อบางอบ่าง เช่น ซิฟิลิส มาลาเรีย
 - เป็นโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคมะเร็ง วัณโรค เบาหวาน ไทรอยด์เป็นพิษ
 - รังไข่ทำงานผิดปกติ
 - ความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ของคุณ
 - ความเครียด พักผ่อนไม่พอ ทำงานหนัก การหกล้มหรือยกของหนัก

อาการเริ่มแรกของการแท้ง
   มีเลือดออกทางช่องคลอด ส่วนใหญ่จะมีเลือดออกเล็กๆ น้อยๆ พอเปื้อนผ้า เปื้อนกางเกงในก่อน ต่อมาจะออกมากขึ้นคล้ายๆ ประจำเดือน



                                                  


ท้องลม blighted ovum
   ท้องลม ศัพท์ทางการแพทย์ คือ blighted ovum หรือ Anembryonic pregnancy หมายถึง การตั้งครรภ์ในโพรงมดลูกแต่ไม่มีตัวทารกในถุง การตั้งครรภ์มีแต่ถุงการตั้งครรภ์เปล่าๆเท่านั้น เชื่อว่าเกิดจาก การพัฒนาที่ผิดปกติ ทำให้ไม่มีทารกหรือทารกเสียชีวิตไปตั้งแต่ยังเล็กมากๆ

ทราบได้อย่างไรว่าการตั้งครรภ์ครั้งนี้ เป็นท้องลม
  • ท้องลม สามารถตรวจพบได้จากการทำอัลตราซาวด์ ปกติการตรวจอัลตราซาวน์จะเริ่มเห็นถุงการตั้งครรภ์ ตั้งแต่ประมาณ อายุครรภ์ 5 สัปดาห์ เมื่ออายุครรภ์ 6 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นตัวอ่อน และเห็นการเต้นของหัวใจ จาก การตรวจถ้าอายุครรภ์เกินสัปดาห์ที่ 8 ไปแล้ว แต่ดูแล้วไม่เห็น แพทย์ถึงจะวินิจฉันว่าเป็นท้องลม นอกจากนั้นแพทย์จะ ใช้วิธีวัดขนาดถุงการตั้งครรภ์ ปกติถุงตั้งครรภ์ขน าด 2.5 เซนติเมตร จะพบตัวอ่อนได้แล้ว หากตรวจไม่พบ สามารถ วินิจฉัยได้เลยทันทีว่า การตั้งครรภ์ครั้งนี้ เป็นท้องลม
  • คนที่เป็นท้องลมจะเหมือนกันคนท้องปกติ บางคนไม่มีอาการเลยแต่มาตรวจพบว่าเป็นท้องลมจากอัลตราซาวน์ บางคนก็มีอาการของการแท้ง เช่น ปวดท้อง มีเลือดออก เมื่อไปตรวจจึงพบว่าเป็นท้องลม

การรักษา ท้องลม
  • กรณีตรวจวินิจฉัยยังไม่แน่ชัด แพทย์มักนัดตรวจเพื่อติดตามอาการ เพื่อตรวจอัลตราซาวด์ซ้ำ เพราะตัวตัดสินที่ดีที่สุด คือเวลาและอาการของคนไข้ บางครั้งการตรวจทางช่องคลอดจะให้ภาพที่ชัดเจนกว่าตรวจทางหน้าท้อง หลายครั้งพบว่า ตรวจเจอ ทารกในครรภ์เมื่ออายุมากขึ้น
  • กรณีตรวจพบว่าเป็นท้องลมจริง การรักษา มี 3 ทางคือ
      1. รอให้ทารกแท้งออกมาตามธรรมชาติ
      2. ใช้ยาเหน็บ ทางช่องคลอด ไม่เจ็บ แต่อาจเกิดภาวะแท้งไม่ครบ แท้งไม่สมบูรณ์ มีเศษรกค้างภายในโพรงมดลูกได้
      3. ขูดมดลูก แพทย์ใช้เครื่องมือเอาส่วนของถุงการตั้งครรภ์ที่เหลืออยู่ออกมาให้หมด อาจเป็นการขูด (curettage) หรือดูด (vacuum aspiration) ในโพรงมดลูก ต้องนอนพักโรงพยาบาล 1 คืน แล้วแต่อาการของคุณแม่ตั้งครรภ์

             


* สภาพอาการ,ปัญหาต่างๆของภาวะมีบุตรยากที่นำเสนอในรีวิว อ้างอิงมาจากผลการตรวจด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันทุกเคส * 
                                                                                                                                                                                            

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้